{CUT SCENE} Tutor Love Ch.22
“หืมมม..เธอจะทำมือตัวเองหักไปเปล่าๆน่า
คงไม่ดีแน่เพราะฉันชอบมือเธอ..” เขายิ้มกวน
แล้วจึงดึงมือฉันเข้าไปจับช่วงล่างที่กำลังโปร่งนู้นอยู่ภายในบ็อกเซอร์สีขาว บางสิ่งข้างใต้นั้นช่างยั่วยวนจนอดที่จะขยับมือลูบไล้มันไม่ไหว
ไม่เท่าไรคริสก็รีบดึงมือฉันออก
“โอ๊โนวๆ..นั้นไม่ดีเลยนะ
ฉันยังไม่อยากให้มันเสร็จตอนนี้ โอเค๊?..” ฉันทำเสียงออกทางจมูก “อู้วว
ใครบางคนเป็นพวกนกกระจอกไม่ทันกินน้ำสินะ”
“เงียบไปเลยคุณผู้หญิง ฉันสู้ได้ทั้งคืนเลยเถอะ”
“อือหืออ..แน่ล่ะ นายทำได้แน่..”
คริสปิดปากฉันอีกครั้งด้วยจูบดุเดือด ที่จบลงด้วยการที่ฉันทุบอกเขาเพื่อขออากาศ
เมื่อเห็นฉันหอบตัวโยนก็ยิ้มพออกพอใจ จนอยากจะตั๊นหน้าเข้าให้สักที
คริสเลือนหน้าลงไปที่หน้าอกชูชันของฉัน
เขามองมันอย่างชื่นชมก่อนจะก้มเพื่อกลืนกินมันเป็นครั้งแรก
ความสะพรึงของสัมผัสเสียวซ่านแล่นผ่านไปถึงปลายเท้า
เมื่อลิ้นร้อนเริ่มหมุนวนรอบจุกที่แข็งเป็นไต และฉันกำลังล่องลอยขึ้นไปบนอากาศ
หน้าอกฉันมันอ่อนไหวได้ง่าย มาตั้งแต่ไหนแต่ไร
ตอนนี้มันกลายเป็นส่วนที่สร้างความพึงใจ ได้อย่างทรมานจนต้องบิดตัวไปมา
คริสดูดมันเข้าไปในปากเหมือนต้องการจะกินมันไม่ให้เหลือ จนฉันแทบจะมองเห็นดวงดาวบนฝ้าห้อง ก่อนจะย้ายไปอีกเต้าเพื่อปรนเปอมันอย่างเท่าเทียม
จุมพิตเชื่องช้าไล้เลียแบบสบายๆ ทำให้เลือดลมไหลเวียนดีมาก (เกินไป) จนผิวทั้งตัวแดงเถือกไปหมด
ก่อนศรีษะกลม ที่ปกคลุมไปด้วยผมสีเข้ม ค่อยๆขยับลงมาต่ำเรื่อยๆ คลื่นความตื่นเต้นไหลซัด ใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ เผลอนึกถึงประสบการณ์แบบเดียวกัน ที่เคยเกิดขึ้นกับแฟนเก่าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
เลย์เองก็เคยทำแบบเดียวกัน ค่อยๆจุมพิตบนผิวเบาๆ ช้าๆ ลงมาเรื่อยๆ และใช้เวลาเป็นพักอยู่บริเวณหว่างขาของฉัน
แน่นอนว่าผลลัพธ์ไม่ได้เป็นที่น่าพอใจ
แต่ฉันตื่นเต้นแทบบ้า..และ..มาคิดถึงแฟนเก่าตอนนี้มันใช่เรื่องหรือไงนะ??
คิดได้แบบนั้นฉันก็ผลักเลย์ออกไปจากสมองทันที
ลมหายใจร้อนของคริสรดเลียบริเวณสะดือ
ขณะที่ลิ้นของเขากดลงไปในหลุมลึกหบริเวณหน้าท้อง สร้างความรู้สึกที่พิลึกพิลันแบบไม่เคยประสบพบเจอ ฉันรู้สึกได้ถึงนิ้วมือที่สั่นระริ้กขณะปลดกระดุมกางเกงยีนส์ของฉันออก
เมื่อรู้สึกว่าคริสเองก็กังวลอยู่ไม่น้อย เลยทำให้รู้สึกดีขึ้นมา
ถ้าหากเขาไม่ได้กังวลก็คงตื่นเต้นไม่แพ้กัน คริสที่มักจะโชว์ด้านที่มั่นใจ
เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์มากมายอยู่ตลอด แต่ตอนนี้ วินาทีนี้
เขาดูไม่ต่างไปจากผู้ชายธรรมดา ที่กำลังจะสูญเสียการควบคุมตัวเองไปได้ทุกเมื่อ
“ฉันทำได้ไหม?” กระซิบถามพร้อมดึงกางเกงยีนส์พร้อมชั้นในลงมาพร้อมกันทีเดียว สายตาหิวกระหายมองลงมาที่ระหว่างขาของฉัน ก่อนจะกลืนน้ำลายอึก
“อือ” ฉันตอบรับเสียงแผ่ว สัมผัสแรกจากลิ้นร้อนที่เกี้ยวตวัด
ทำเอาหลุดร้องออกมาจนคริสต้องรีบยกหัวขึ้นมาหา
“ไอ้เทาอยู่บ้าน..” เขาพูดเตือน นัยน์ตาสีเทามีแววขบขัน
“ทำเสียงให้ได้ยินแค่เราสองคนก็พอ”
ฉันเลยต้องกัดปากตัวเองจนเจ็บ เพื่อเก็บเสียงเอาไว้
เพราะสิ่งที่คริสกำลังจะทำกับฉัน โอ้..พระเจ้า พระแม่มารี พระอัลเลาะ พระบุดด้า
หรือจะเทพองค์ไหนก็ตาม มันดีสุดๆไปเลย ปลายลิ้นหยอกล้อไปรอบๆยอดคริสตอริสด้วยทำนองเหนิบหนาบ ที่ทำฉันตัวสั่นไปด้วยความต้องการ
ฉันจำได้ว่าทิฟฟานี่เคยเอ่ยปาก ว่าเธอต้องเทรนเชนเรื่องนี้โดยเฉพาะ
เพราะเชนเคยจัดการใช้ลิ้นกับเธอเหมือนหางเรือที่ถูกสตารท แล้วเดินเครื่องทันทีแบบรวดเดียวจบ ไม่มีการผ่อนเปรอ
แต่คริสไม่จำเป็นต้องได้รับการเทรนใดๆทั้งนั้น เขาค่อยๆปลุกปั้นอารมณ์ของฉันให้พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
จนต้องอ้อนวอน..
“คริสส..” ฉันตัวสะท้าน มือจิกหมอนใบใหญ่แน่น
“เร็วกว่านี้ได้ไหม?” เขายกหัวขึ้นมามองฉัน
และฉันไม่เคยสิ่งไหนที่จะเซ็กซี่ไปกว่าริมฝีปากที่ฉ่ำวาว และดวงตาคมที่เป็นประกายนั้นอีกแล้ว
“เธอคิดว่าเธอจะเสร็จแบบนี้ได้ไหม?” และก็ต้องประหลาดใจกับตัวเองที่พยักหน้าหงึกๆทันที..ก็ไม่ได้คิดจะโกหก เพื่อให้คริสทำสิ่งที่ทำค้างไว้ต่อเลยนะ แต่ตอนนี้ความรู้สึกมันอัดแน่นรอการระเบิด
ขอแค่เพียงคนจุดชนวนเท่านั้น ได้ยินคำยืนยัน
ปากอันเก่งกาจของคริสก็รวบกลืนเม็ดเสียวเข้าไปเต็มคำ ดูดซดมันอย่างแรง พร้อมนิ้วยาวที่สอดเข้ามาช่วยอีกแรง
จนสามารถปลดปล่อยยานอวกาศ “ชาร์ล็อต1127” สู่อวกาศได้สำเร็จ
จุดสุดยอดครั้งนี้มันรุนแรงยิ่งเสียกว่าเมื่อครั้งที่ฉันทำให้ตัวเองเป็นสิบเท่า
อาจเพราะว่าฉันรู้ดีว่าใครเป็นคนทำให้มันเกิดขึ้นล่ะมั้ง? คริสเป็นคนทำ..คริสเป็นคนที่หลอมละลายฉันให้กลายเป็นเยลลี่ปวกเปียกอยู่บนเตียง เพราะความรู้สึกอันท้วมท้นกำลังซัดผ่านร่างกาย
เมื่อความรู้สึกอันเหลือเชื่อที่ไม่เคยพานพบมาก่อนในชีวิตได้เกิดขึ้น
มันทั้งอิ่มเอม เปี่ยมล้น ปนเจือด้วยความขมปร่าเล็กน้อยที่ทำให้ใจหวิวๆ
เต้นไม่เป็นส่ำ..เหมือนกับในหนัง สิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันต่อมา
ทำเอาอยากจะขุดหลุมลงไปใช้ชีวิตที่แกนโลก
เพราะฉันร้องไห้ออกมาน่ะสิ เวร..
ขณะที่สะอื่นฮึก ยกหลังมือขึ้นมาปิดตา
คริสก็คลานขึ้นมาบนตัว สองมือประกบข้างแก้ม ตามหาสิ่งปกติด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไร?” ก่อนใบหน้าคมจะเบิกตาโต “โอ้ ชิท
ฉันทำเธอเจ็บเหรอ?” ฉันส่ายหัว กระพริบตาปริบๆไหลน้ำตา
“ฉัน..ฮึกก ฉันร้องไห้..เพราะ...” สูดหายใจ
เฮือกก “เพราะ..ฉันมีความสุข” คริสคลายคิ้วที่ขมวดลง
ทำหน้าอยากจะหัวเราะออกมาเต็มกลืน แต่ก็ทำไม่ได้เพราะเกรงใจน้ำตาที่ยังคงไหลรินของฉัน
เขายิ้มระรื่น ก้มหน้าลงมาหาจนจมูกแทบจะติดกัน
“พูดสิ..”
“พูดอะไร?” ฉันแอบดึงปลายผ้าห่มขึ้นมาเช็ดแก้ม
“พูดว่า..”คริส อู๋ นายคือเทพเจ้าแห่งเซ็กส์
นายได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยมีผู้ชายหน้าไหนเคยทำได้มาก่อน..”
ฉันฟาดฝ่ามือลงบนไหล่กว้างดังเพี๊ยะ
“ให้ตาย นายมันร้ายกาจที่สุด ฉันไม่มีทาง
และไม่มีวัน พูดแบบนั้นแน่ๆ”
“..เธอพูดแน่ล่ะ พอถึงตอนฉันจัดการเธอจริงๆ
เธอได้พูดออกมาดังลั่นบ้านแน่ๆ”
“รู้ไหมว่าฉันคิดอะไร?”
“ผู้หญิงไม่ควรจะคิดอะไรทั้งนั้นปาร์กกี้
เพราะงี้สมองของพวกเธอถึงได้เล็กกว่า วิทยาศาสตร์พิสูจน์มาแล้ว” ฉันตีไหลเขาอีกรอบ
เรียกคนข้างบนให้ส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
“..ฉันแค่ล้อเล่นเฉยๆ ต่อให้พวกเธอคิดไม่เป็น
หรือสมองเล็กแค่ไหน..พวกเราชายชาตรีก็ยังคงบูชาพวกเธออยู่ดีล่ะน่า”
แกล้งยิ้มมุมปากกวนประสาท จนอยากจะตีอีกรอบ
ถ้าไม่เห็นว่าไหล่ขาวเริ่มมีรอยนิ้วมือแดงๆแล้ว “..โอเค บอกมาว่าคิดอะไร?”
“ฉันแค่คิดว่ามันถึงเวลาที่นายจะหยุดพูดไร้สาระเสียที”
คริสยังคงยิ้ม
“อือหือ เธอมีแพลนว่าไง..”
คริสส่งเสียงฮึก เมื่อฉันจับหมับที่น้องชายที่แข็งขืนสู้มืออยู่ในกางเกงบ็อกเซอร์
พร้อมบีบสัมผัสมันเล็กน้อยเรียกให้ตื่นตัวยิ่งกว่าเดิม “เธอมัน ยัยตัวแสบ”
“ส่วนนายมันก็กวนประสาทไม่หยุด..เรานี้ก็เหมาะสมกันใช่ย่อยนะ”
คริสแกล้งยิ้มใสซื่อ แต่ฉันรู้ว่ามันไม่มีอะไรใสซื่อสักนิด
เมื่อเขาขยับสะโพกใส่มือของฉัน
และความรู้สึกที่อยากจะแกล้งเขาก็ไม่มีเหลืออีกต่อไป ฉันอยากจะเห็นสีหน้าของคริส
ที่เขาทำเมื่อคืนนี้ ตอนที่...
ลมหายใจชักจะติดขัดขึ้นมา เมื่อนึกถึงความทรงจำเหล่านั้น
ออกแรงผลักร่างตรงหน้าเล็กน้อยและคริสล้มตัวลงไปนอนบนที่นอนข้างๆ ฉันนั่งคุกเข่า
ใช้ทั้งสองมือจัดการดึงบ็อกเซอร์สีขาวปราการสุดท้ายออกไป
ซึ่งคริสได้แต่นอนนิ่ง ปล่อยให้ฉันทำอะไรกับร่างกายเขาก็ได้ตามใจ
บ็อกเซอร์ตัวน้อยถูกถลกลงไปเหมือนกระดาษห่อของขวัญ เมื่อร่างตรงหน้าเปลือยเปล่า ฉันก็หยุดชื่นชมมัน
ร่างกายก่ำยำ ดูสวยงามราวกับรูปปั้นเทพเจ้ากรีก ผิวสีครีมเนียนสวย ที่ไม่มีความหยาบกระด้างสักนิด
ฉันค่อยๆไล้ปลายนิ้วไปตามเส้นกล้ามเนื้อ
อดยิ้มไม่ได้เมื่อผิวหนังของเขาสั่นระริ้กตามปลายนิ้ว จนกระทั่งไปหยุดคลอเคลียร์ที่รอยสักที่ต้นแขนข้างซ้าย
“ทำไมถึงเป็นไฟล่ะ?” คริสหยักไหล่
“ฉันชอบไฟ ฉันว่ามันเท่ดี” คำตอบทำให้ฉันขำคิก
แต่ก็ประทับใจ
“ว้าว
ฉันคิดว่าจะได้ยินความหมายไร้สาระของรอยสักนี้ซะอีกนะ
ทุกครั้งที่ถามใครเรื่องรอยสักทีไร พวกเขาก็จะบอก ทำนอง มันหมายถึง ”ความกล้าหาญ”
ในภาษาจีน หรือไม่ก็ เพราะปีที่แล้วรอดจากการจมน้ำ ก็เลยมี
ปลาโลมาอยู่กลางหลังอะไรเทือกนั้น” คริสหัวเราะ
“ฉันว่านี่คงไม่ใช่เวลาจะบอกเธอหรอกนะ
ว่ารอยสักแต่ละที่มันมีที่มายังไง..”
“...ไม่ต้องลำบากก็ได้ย่ะ”
“...แต่ตัดสินรอยสักคนอื่นง่ายๆแบบนั้น
ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไร ไม่ใช่หรือไง?”
“เฮ้..ฉันแค่คิดว่ามันคงดีเหมือนกัน
ถ้าจะได้ยินใครสักคนบอกว่า ที่สักก็เพราะว่าชอบ นี่ฉันชมนายอยู่นะ ตาบื้อเอ๊ยย”
ฉันยื่นหน้าไปจุมพิตต้นแขนหนาบริเวณเปลวไฟสีดำที่เต้นระบำอยู่รอบๆต้นแขน ของคริส
ซึ่งฉันคิดว่ามันก็เท่ดีเหมือนกัน
“โอ้ เหรอ?..งั้นก็ชมฉันไปเรื่อยๆละกัน..อย่าลืมใช้ลิ้นเยอะๆด้วย” ฉันกรอกตาเบาๆ
ค่อยๆลากลิ้นจากต้นแขนมาที่หน้าอกแข็ง รสชาติของคริสเหมือนกับสบู่ และเค็มนิดๆ..ก็คงจะรสชาติแบบผู้ชายละมั้ง? มันคงตลก ถ้าฉันบอกเขาว่ารสชาติเหมือนลูกกวาด
ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้แน่ๆ แต่รวมๆแล้ว..ฉันชอบนะ ชอบมากซะจนหยุดเลีย
หยุดลิ้มรสชาติแมนๆของคริสไม่ได้เลย และฉันรู้ว่าคริสกำลังเอนจอยกับสิ่งที่ฉันทำพอๆกัน
เพราะลมหายใจเขาเริ่มดังฮึดฮัด
กล้ามเนื้อก็หดเกร็งหนีลิ้น ไม่รู้ว่าจั๊กจี้หรือเสียวกันแน่
แต่ที่แน่ๆเมื่อลิ้นของฉันแตะชิมส่วนปลายที่ผงาดชูชันอยู่ข้างล่าง
ทั้งตัวของเขาก็สะท้าน ฉันเงยหน้าขึ้นมาสบตากับดวงตาคมที่มองมา
“เธอไม่ต้อง..ทำก็ได้..ถ้าไม่อยากทำ..”
“งั้นก็นายก็โชคดีแล้ว เพราะฉันอยาก”
“ผู้หญิงบางคนไม่ชอบอะไรแบบนี้”
“ผู้หญิงบางคนก็งี่เง่าไง” ลิ้นของฉันตวัดชิมคริสอีกครั้ง
สะโพกหนาเด้งขึ้นมาจากเตียงเพื่อตอบรับ ก่อนที่ฉันจะจะอ้าปากครอบครองส่วนหัวเข้าไป
ทำความคุ้นเคยกับรสชาติและผิวสัมผัสของเขา
เมื่อลองออกแรงดูดดึงเบาๆ ก็ได้รับเสียงครางตอบรับจนต้องยกยิ้มภูมิใจ
“จีซัส..ปาร์กกี้..มัน..มัน..”
“มันอะไร?”
ฉันยกยิ้มขณะมอง ใบหน้าไร้ทางสู้ของคริส
“มัน..โครตจะมหัศจรรย์พันลึกไปเลยน่ะสิ
อย่าได้หยุดที่กำลังทำอยู่เด็ดขาด ฉันพูดจริงนะ ฉันอยากให้เธอดูดฉันแบบนั้นไปชั่วชีวิตของเธอเลย”
โอ้วว ว้าว รู้สึกชนะ
ฉันเลิกคิ้วกับผู้ชายที่ยอมนอนนิ่งไม่ไหวติ่ง
และดูไร้พิษสงยามไร้เสื้อผ้าไปอย่างสิ้นเชิง
เขาต้องยอมทำทุกอย่างแลกกับการที่ฉันก้มลงไปทำสิ่งที่ทำอยู่ต่อแน่ๆ คริส อู๋
ที่ฉันไม่เคยเถียงชนะ หรือขัดใจเขาได้เลยสักครั้ง ตอนนี้ก็แค่ลูกไก่ในกำมือ
ในเมื่อคริสใหญ่เกินกว่าจะเอาเข้าไปในปากได้ทั้งหมด
และฉันก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ในการใช้ปาก
ก็เลยใช้ฝ่ามือกำรอบส่วนโคนเอาไว้ ค่อยๆบีบรัด ดูดดึง ซอนไซ้ไปเรื่อยๆตามจินตนาการ
เร็วบ้าง ช้าบ้างสลับกันไป
คริสเริ่มหายใจติดขัดผสมกับทำเสียงกัดฟัน..รุนแรงขึ้นทุกที
“ชาร์ล็อต..” เขาหอบหายใจพร้อมชื่อของฉัน
ต้นขาหนายึดเกร็ง
และฉันรู้ว่าเขาใกล้มาถึงขีดจำกัด
เต็มที...ฉันไม่เคยกลืนน้ำนั้นมาก่อนเลย และก็ยังไม่กล้าพอที่จะลองดู..ก็เลยปล่อยคริสออกมาจาก
ปาก แล้วใช้มือทำให้เขาปลดปล่อยออกมา เสียงร้องแหบห้าวดังออกแผ่วเบาราวกับสายลม
ต้นขากระ
ตุก และน้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งออกมาเลอะนิ้วมือของฉัน และหน้าท้องของตัวเอง
ใบหน้าที่ข่มตาปิดสนิทดู
สุขสมเข้าขั้นทรมาน และฉันไม่สามารถเลือนสายตาออกไปจากคริสได้เลย
ปากอิ่มอ้าคาง..แก้มกร้านขึ้นสี..เมื่อตาคมลืมขึ้นมา ดูเลือนลอยเหมือนมันกำลังแวกว่ายอยู่ในม่านหมอนของอารมณ์ที่นุ่มลึก ลึกซะจน เหมือนฉันก็จะถูกมันดูดลงไปด้วย เพียงแค่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ
ไปต่อที่เด็กดีได้เงยนะงับ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น